เมนู

4. อโยนิโสสูตร



นิวรณ์ 5 เกิดเพราะมนสิการโดยไม่แยบคาย


[444] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุมนสิการโดยไม่แยบคาย กาม
ฉันท์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้นและที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์
ยิ่ง พยาบาท. . . ถีนมิทธะ. . . อุทธจัจกุกกุจจะ. . .วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิด
ขึ้นและที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง.
[445] สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมดับไป ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิด
ขึ้นแล้ว ย่อมดับไป.
[446] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุมนสิการโดยแยบคาย กาม
ฉันท์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแล้ว เธอย่อมละเสียได้ พยาบาท
. . . ถีนมิทธะ . . . อุทธัจจกุกกุจจะ . . . วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น
และที่เกิดขึ้นแล้ว เธอย่อมละเสียได้.
[447] สติสัมโพชณงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้นและที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมถึงความเจริญไพบูลย์ยิ่ง ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น
และที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญไพบูลย์ยิ่ง.
จบอโยนิโสสูตรที่ 4

5. อปริหานิยสูตร



ธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม 7


[448] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่ง
ความเสื่อม 7 ประการ แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังธรรมนั้น. ก็ธรรม
อันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม 7 ประการเป็นไฉน. คือ โพชฌงค์ 7. โพชฌงค์
7 เป็นไฉน. คือ สติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม 7 ประการนี้แล.
จบอปริหานิยสูตรที่ 5

6. ขยสูตร



ปฏิปทาที่เป็นไปเพื่อสิ้นตัณหาคือโพชฌงค์ 7


[449] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มรรคาใด ปฏิปทาใด ย่อมเป็นไป
เพื่อความสิ้นตัณหา เธอทั้งหลายจงเจริญมรรคานั้น ปฏิปทานั้น มรรคาและ
ปฏิปทาที่เป็นไปเพื่อความสิ้นตัณหาเป็นไฉน คือ โพชฌงค์ 7. โพชฌงค์ 7
เป็นไฉน. คือ สติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์.
[450] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุทายีได้
ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โพชฌงค์ 7 อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นตัณหา.